ใครเคยรับโทรศัพท์แจ้งข้อเสนอจากบัตรเครดิตทำนองนี้บ้างค่ะ
“ สวัสดีค่ะ คุณเป็นลูกค้าพิเศษที่ได้รับการคัดเลือกจากบัตรเครดิต.....
เข้าโครงการออมพิเศษ จ่ายผลตอบ แทนสูง โดยที่คุณไม่ต้องฝากเงิน เพียงแค่ออมเงินผ่านบัตรเครดิตแค่เดือนละ ....เท่านั้น ”
คุ้นๆใช่ไหมคะ บางคนเจอไม้นี้หว่านล้อมเข้าไป
อาจจจะหลงเคลิ้มกับข้อเสนอผลตอบแทนที่ทำให้ตาโต แต่รู้หรือไม่คะว่า นี่ไม่ใช่การออมเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์หรือออมเงินกับบัตรเครดิต
แต่เป็นการซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ที่พนักงานแจ้งไม่หมด ว่าเป็นการซื้อประกัน
และที่บอกว่าไม่ต้องจ่ายเงินฝาก แต่แท้ที่จริงคุณจ่ายชำระในรูปค่าบัตรเครดิตต่างหากค่ะ
กลยุทธ์ของการนำเสนอ
พนักงานจะพยายามกดดันให้คุณรีบตัดสินใจเร็วๆ ว่าโครงการนี่พิเศษจริงๆ
มีระยะเวลาจำกัด ต้องตัดสินใจภายใน วันนี้ หรือสิ้นเดือนนี้เท่านั้น
ถ้าคุณตัดสินใจไปแล้ว
บริษัทประกันชีวิตก็จะตัดเงินจากบัตรเครดิตทุกๆเดือนเพื่อที่จะจ่ายเป็นเบี้ยประกัน
ตัวอย่างเช่น ข้อเสนอทำนองว่า
คุณเพียงแต่มีบัตรเครดิต และสมัครออมขั้นต่ำผ่านบัตรเครดิตของคุณ เพียงเดือนละ 3,000 บาท
โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินฝาก สิ้นปีที่ 2
จะได้รับผลตอบแทน 10% คือ 3,600 บาท และจะรับแบบนี้ไปตลอด
คือออมทุกเดือน ได้รับ 3,600 ต่อปี โดยให้ออมได้สูงสุด 7 ปี
แต่ยกเลิกก่อนก็ได้ ถ้าออมต่อ
ตั้งแต่ปีที่ 8
จะได้รับผลตอบแทน 15% คือ 5,400 บาทต่อปี
บวกกับผลกำไรจากบริษัทซึ่งแล้วแต่ ผลประกอบการ แต่เฉลี่ยที่ 4%
ให้ออมต่อได้มากสุด 15 ปี สรุปแล้วจะได้ผลตอบแทน 266%
และผลตอบแทนทั้งหมด ไม่เสียภาษี ทำให้เราเคลิ้มๆ ตาโตกับผลตอบแทนก้อนโต
จริงๆ แล้ว ข้อดี การซื้อประกัน
หรือการออมเงินผ่านบัตรเครดิต เป็นการสร้างวินัยการเงินรูปแบบหนึ่ง แต่ก็ต้องพิจารณาว่าคุณมีกำลังพอที่จะส่งเงินเพื่อการออมได้ระยะยาวหรือไม่
ถ้าได้ก็ถือว่าเป็นผลตอบแทนที่ดี
แต่ต้องระวังถ้าจ่ายชำระผ่านบัตรเครดิตไม่ตรงตามกำหนดก็จะต้องเสียดอกเบี้ย 28 % เมื่อคำนวนผลตอบแทนแล้วติดลบแน่ๆ และถ้ายกเลิกไม่สามารถผ่อนได้ตามระยะเวลาที่กำหนดคือ
15 ปี
ขอเงินคืนก่อน หรือที่เรียกกันว่าเวนคืนกรมธรรม์ คุณจะขาดทุนแน่ๆ หรือบางกรมธรรม์บริษัทจะไม่ยอมคืนค่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปเลย
ถือว่าเงินที่จ่ายไปสูญเปล่า
ที่สำคัญคุณจะรู้หรือไม่ว่า
"โครงการออมพิเศษ" นั้นเป็นการซื้อประกันผ่านบัตรเครดิต แต่เปลี่ยนคำพูด เป็น"การออมเงินผ่านบัตรเครดิต"
เพื่อให้ฟังแล้วรู้สึกดูดีกว่าการซื้อประกัน
ดังนั้นการลงทุนมีความเสี่ยง
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน คำๆนี่้ใช้ได้ทุกสถานการณ์
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากคอลัมน์แม่ไม้การเงิน
นสพ.โพสต์ทูเดย์ โดยชัตน์วรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น