วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2562

ปั้นสินค้าหลุดจำนำสร้างกำไร


  





เรื่อง – ชีวรัตน์ กิจนภาธนพงศ์ 


                เปิดร้านขายสินค้าหลุดจำนำ "ราคาถูก" เป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจ และกำไรดี

 ส่วนใหญ่สินค้าที่จะได้รับความนิยมจากลูกค้าจะเป็นพวกเครื่องประดับ ทองคำ เพชรพลอย   พระเครื่อง  เครื่องดนตรี   โทรศัพท์ นาฬิกา และสินค้าแบรนด์เนม  ฯลฯ 

                โดยปกติสินค้าหลุดจำนำที่นำมาขายมีสองส่วนใหญ่ๆ คือ  สินทรัพย์ที่หลุดจำนำจากโรงรับจำนำ  ซึ่งโรงรับจำนำแต่ละที่จะมีการตั้งตู้โชว์ที่จะขายสินค้าหลุดจำนำหน้าโรงรับจำนำเอง

                นอกจากนี้ยังมีกลุ่มพ่อค้าที่จะตะเวนไปประมูลซื้อสินทรัพย์หลุดรับจำนำจากสถาธนานุเคราะห์ (โรงรับจำนำของรัฐ ) สถาธนานุบาลโรงรับจำนำของกทม. เพื่อนำสินทรัพย์มาขายต่อ

                การประมูลซื้อสินทรัพย์จากโรงรับจำนำ มีของดีๆ ที่หลุดจำนำมา  ไม่ว่าจะเป็นของเก่า ของสะสมหายาก  โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพรับซื้อของเก่า ของสะสมของหายาก จะตะเวนหาขอหลุดจำนำ โดยเฉพาะที่ของหลุดจำนำจากบ่อนก็มี   และมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นเซียนพระ  ที่ตะเวนที่จะหาจะไปหาเช่า "พระเครื่อง"ชื่อดังที่หลุดจำนำ    รวมถึงนาฬิกายี่ห้อแพงๆ  เครื่องประดับอัญมณีแบบรุ่นเก่าๆ   ที่จะมาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อที่จะนำมาขายต่อซึ่งได้ราคาและมีกำไรงาม

                แม้ว่าการจะซื้อสินทรัพย์หลุดจากโรงรับจำนำ  ได้มีการผ่านขั้นตอนการตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้   ดังนั้นผู้ที่จะทำธุรกิจนี้จะต้องมีความรู้ที่จะดูสินค้าว่าเป็นของแท้จริงหรือไม่       ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ทำธุรกิจรับซื้อของหลุดจำนำจะมีการแยกประเภทความต้องการซื้อสินทรัพย์ที่แตกต่างกันตามความถนัด  รวมทั้งต้องติดตามทิศทางราคาของสินทรัพย์ที่หลุดจำนำมา เพราะหากเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาก็จะตกลงมาก  และบางครั้งสินค้าตกรุ่นไปก็แทบจะไม่มีราคาซื้อมาประเมินไม่ดีก็อาจจะขาดทุนขายไม่ออกก็ได้

                สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ  ผู้บริหารโรงรับจำนำ "อีซี่มันนี่" เล่าว่า  ช่องทางการขายของหลุดจำนำมีทั้งการนำสินทรัพย์หลุดจำนำมาขายตั้งตู้โชว์ เพื่อที่ขายที่สาขา และให้ลูกค้าเลือกดูสินค้า และปัจจุบันมีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีในการเป็นช่องทางการขายสินค้าหลุดจำนำ  เช่น การขายผ่านเว็บไซด์  และเฟซบุ๊ค ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากขึ้น

                สิทธิวิชญ์ เล่าว่า  สินทรัพย์หลุดจำนำที่เอามาขายราคาจะกำหนดเป็นราคามาตราฐาน   เพราะต้องการที่จะสร้างตลาดสินค้ามือสองที่ลูกค้าที่ ว่าราคาเหมาะสม ยุติธรรม  ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ่นเป็นของแท้  ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม Louis Vuitton, Gucci, Hermes และ Chanel   เป็นของแท้  แบ่งเป็นเกรดคุณภาพอย่างชัดเจน  และราคาเหมาะสม   ทำให้ลูกค้ามั่นใจที่จะซื้อสินค้าหลุดจำนำจากอีซี่มันนี่

                ล่าสุดอีซี่มันนี่ได้มีการเปิดประมูลออนไลน์นำสินทรัพย์ที่น่าสนใจมาประมูลวันละ 1 ชิ้น  เช่น โทรศัพท์ไอโฟน ไอแพค   นาฬิกา   กระเเป๋าแบรนด์เนมต่างๆ ฯลฯ ราคาเริ่มต้น 99 บาท   โดยเปิดให้ลูกค้าแข่งขันประมูลกัน  ซึ่ง"อีซี่มันนี่"  จะให้ข้อมูลสินค้าและราคาทั้งสินค้ามือหนึ่ง สินค้ามือสองในตลาด เพื่อให้ผู้ที่ประมูลตัดสินใจในการประมูลซื้อสินค้า  ซึ่งที่ผ่านมากได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก  ทำให้ผู้ที่้ต้องการสินค้าสามารถซื้อได้โดยตรง  และได้ในราคาที่เหมาะสม   รวมทั้งอีซี่มันนี่จะการันตีว่าซื้อสินค้าที่หลุดจำนำจากอีซี่เป็นสินค้าของแท้ โดยเฉพาะสินค้าประเภทแบรนด์เนมเช่น  กระเป๋า และ นาฬิกา เป็นต้น

                "ส่วนใหญ่ลูกค้าจะสนใจซื้อทองคำ เพราะว่าทองคำที่หลุดจำนำของอีซีมันนี่เป็นทองคำสภาพใหม่ ซึ่งราคาถูกกว่าราคาตลาด โดยไม่คิดค่ากำเหน็จ ซึ่งเฉลี่ยนแล้วก็ทำให้ต้นทุนลดลงทองคำบาทละ 500-1000 บาท  และมีการปรับราคาขายตามราคาประกาศของสมาคมค้าทองคำทุกวัน  ซึ่งวันใดที่ราคาทองลดลง ก็จะก็สนใจที่จะมาซื้อทองจากโรงรับจำนำอีซี่มากขึ้น  ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อทองคำเพื่อการลงทุน หรือางรายก็นำไปขายต่อก็มี  " สิทธิวิชญ์กล่าว

                 ในขณะเดียวกันที่โรงรับจำนำของรัฐ (สำนักสถาธนานุเคราะห์) ก็เริ่มที่จะมีการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายผ่านการเปิดประมูลขายทอดตลาดสินทรัพย์ที่หลุดจำนำ  ผ่านระบบออนไลน์   และเปิดตลาดให้กว้างมากขึ้น แทนที่จะถูกจำกัดเฉพาะกลุ่มที่จะมาตะเวนประมูลซื้อสินทรัพย์หลุดจำนำ  ซึ่งจะทำให้ได้ราคาสินทรัพย์หลุดจำนำที่สูงมากขึ้น

                อีกธุกิจหนึ่งที่่สนใจ  คือ " การรับซื้อตั๋วโรงรับจำนำ" ส่วนใหญ่พวกที่จำนำตั๋วจำนำมาขายคือกลุ่มที่ไม่ต้องการที่จะไถ่ถอนสินทรัพย์คืนแล้ว และต้องการส่วนต่างบ้างเล็กน้อย ซึ่งจะมีผู้ที่ทำธุรกิจตั้งโต๊ะรับซื้อตั่วจำนำ จะอยู่ใกล้ๆบริเวณโรงรับจำนำ แต่ปัจจุบันในโลดิจิตอลออนไลน์ มีการเปิดเว็บไซด์  เฟซบุ๊ค  ที่จะรับซื้อตั๋วจำนำแบบออนไลน์  โดยให้ผู้ที่ต้องการขายตั๋วจำนำสามารถที่จะถ่ายรูป และส่งรูปตั๋วรับจำนำไปใน อินบ็อกที่จะสอบถามราคากันก่อน

                ปัจจุบันการทำธุรกิจซื้อหรือขายของหลุดจำนำไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน สามารถที่จะทำเป็นธุรกิจซื้อขายออนไลน์ เป็นโอกาสหนึ่งที่สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้แต่ที่สำคัญไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร จะต้องศึกษาเรียนรู้ให้ถ่องแท้   "โอกาส"  ที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือสร้างรายได้ก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมได้



 /////////////////

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

4 ไอเดียหาเงินผ่อน...ค่าเทอมลูก

            ใกล้เปิดเทอมผู้ปกครองหลายคนคงหัวหมุนวิ่งหาเงินมาจ่ายทั้งค่าเทอม ค่าชุดเสื้อผ้านักเรียนนักศึกษา  อุปกรณ์การเรียน ค่าใช้จ่ายจิปะถะ   รวมถึงผู้ที่ทำงานแล้วอาจจะหาโอกาสที่จะเพิ่มพูนความรู้ด้วยการศึกษาต่อ  แต่เป็นโรคทรัพย์จาง วันนี้อยากนำเสนอลู่ทางแหล่งเงินดีๆเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าเทอมกันค่ะ

            1.กู้เงินกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 
            ปัจจุบัน กยศ. สนับสนุนค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และ ค่าครองชีพ แก่นักเรียน นักศึกษาที่มีความจำเป็นตั้งแต่ระดับมัธยมปลายสายสามัญและสายอาชีพ อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยไม่คิดดอกเบี้ยระหว่างศึกษาอยู่ และจะต้องชำระเงินคืนหลังจากจบการศึกษาแล้ว 2 ปี โดยกองทุนฯ จะคิดอัตราดอกเบี้ย 1 %  ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระคืนทั้งสิ้นไม่เกิน 15 ปี  วงเงินกู้ยืม1.4 หมื่นบาท -2แสนบาท
          2. พึ่งโรงรับจำนำ  
            อีกหนึ่งวิธีแปลงทรัพย์สินให้เป็นเงินค่าเทอมยอดนิยม คือ เข้าโรงรับจำนำ โดยทั่วไปโรงรับจำนำคิดอัตราดอกเบี้ย1.25 % ต่อเดือน หรือดอกเบี้ย15% ต่อปี       ล่าสุดโรงรับจำนำกทม.จัดโครงการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครอง นิสิต นักศึกษา ที่จำเป็นต้องใช้เงินในช่วงเปิดเทอม เป็นค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าเทอม โดยคิดดอกเบี้ยสำหรับผู้ปกครอง นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในอัตรา0.50 % ต่อเดือน  ซึ่งจะเริ่มโครงการลดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 พ.ค. 58 รวมระยะเวลา 2 เดือน รายละไม่เกิน 7 หมื่นบาท  โดยต้องมีเอกสารประกอบการใช้สิทธิในวันมาจำนำ ส่งดอกหรือไถ่ถอน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียนนิสิต นักศึกษา เอกสาร
            ส่วนโรงรับจำนำของรัฐ  เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย  0.25 % ต่อเดือน   เงินต้นมากกว่า 5,001 แต่ไม่เกิน 25,000 บาท คิดดอกเบี้ย 0.75 %ต่อเดือน    เงินต้นมากกว่า 25,001 แต่ไม่เกิน 100,000 บาท คิดดอกเบี้ย 1%  ต่อเดือน 
            3.รูดบัตรเครดิตจ่ายค่าเทอม  
            ปัจจุบัน สถบันศึกษาเอกชนหลายแห่งเริ่มเปิดให้มีการให้ชำระค่าเล่าเรียนด้วยบัตรเครดิตได้ รวมทั้งออกบัตรให้ผ่อนชำระได้  0%  นาน 3-6  เดือน ซึ่งจะทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายบ้าง แต่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะสถาบันการศึกษาบางแห่งก็คิดค่าธรรมเนียมการรูดบัตรเครดิตด้วย
            4.ขอสินเชื่อจากธนาคาร  
            ทุกวันนี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีสินเชื่อเพื่อการศึกษาให้เรากู้ยืมได้  แต่ก็ต้องมีบุคคลค้ำประกัน หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน    เช่น ธนาคารกสิกรไทย สินเชื่อบุคคลเพื่อการศึกษากสิกรไทย  ให้เงินกู้เพื่อการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี -ปริญญาเอก ทั้งในประเทศไทย โดยให้เงินกู้ 80% ของค่าใช้จ่ายแต่ละหลักสูตร สูงสุดไม่เกิน 7.5 แสนบาท   ระยะเวลาผ่อน 5-7 ปี  ธนาคารกรุงไทย สินเชื่อเพื่อการศึกษาต่างประเทศ  อัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์บวก3 % ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี เป็นต้น


            สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปกครองและผู้ที่กำลังจะหาเงินกู้เพื่อศึกษาต่อ เพื่ออนาคตที่ดีขึ้น  เพราะการเรียน และการศึกษาเป็นการลงทุนกับตัวเองที่ดีที่สุด




            ขอบคุณข้อมูลดีๆจากคอลัมน์แม่ไม้การเงิน นสพ.โพสต์ทูเดย์ โดยชัตน์วรี 

คิดให้ดี!ก่อนออมเงินผ่านบัตรเครดิต

            

              ใครเคยรับโทรศัพท์แจ้งข้อเสนอจากบัตรเครดิตทำนองนี้บ้างค่ะ
            “ สวัสดีค่ะ คุณเป็นลูกค้าพิเศษที่ได้รับการคัดเลือกจากบัตรเครดิต..... เข้าโครงการออมพิเศษ จ่ายผลตอบ แทนสูง โดยที่คุณไม่ต้องฝากเงิน  เพียงแค่ออมเงินผ่านบัตรเครดิตแค่เดือนละ ....เท่านั้น ”
             คุ้นๆใช่ไหมคะ บางคนเจอไม้นี้หว่านล้อมเข้าไป อาจจจะหลงเคลิ้มกับข้อเสนอผลตอบแทนที่ทำให้ตาโต                    แต่รู้หรือไม่คะว่า นี่ไม่ใช่การออมเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์หรือออมเงินกับบัตรเครดิต แต่เป็นการซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ที่พนักงานแจ้งไม่หมด ว่าเป็นการซื้อประกัน และที่บอกว่าไม่ต้องจ่ายเงินฝาก แต่แท้ที่จริงคุณจ่ายชำระในรูปค่าบัตรเครดิตต่างหากค่ะ
            กลยุทธ์ของการนำเสนอ พนักงานจะพยายามกดดันให้คุณรีบตัดสินใจเร็วๆ ว่าโครงการนี่พิเศษจริงๆ มีระยะเวลาจำกัด ต้องตัดสินใจภายใน วันนี้ หรือสิ้นเดือนนี้เท่านั้น ถ้าคุณตัดสินใจไปแล้ว บริษัทประกันชีวิตก็จะตัดเงินจากบัตรเครดิตทุกๆเดือนเพื่อที่จะจ่ายเป็นเบี้ยประกัน
            ตัวอย่างเช่น ข้อเสนอทำนองว่า คุณเพียงแต่มีบัตรเครดิต และสมัครออมขั้นต่ำผ่านบัตรเครดิตของคุณ เพียงเดือนละ 3,000 บาท โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินฝาก สิ้นปีที่ 2 จะได้รับผลตอบแทน 10% คือ 3,600 บาท และจะรับแบบนี้ไปตลอด คือออมทุกเดือน ได้รับ 3,600 ต่อปี โดยให้ออมได้สูงสุด 7 ปี แต่ยกเลิกก่อนก็ได้  ถ้าออมต่อ ตั้งแต่ปีที่ 8 จะได้รับผลตอบแทน 15% คือ 5,400 บาทต่อปี บวกกับผลกำไรจากบริษัทซึ่งแล้วแต่ ผลประกอบการ แต่เฉลี่ยที่ 4% ให้ออมต่อได้มากสุด 15 ปี สรุปแล้วจะได้ผลตอบแทน 266% และผลตอบแทนทั้งหมด ไม่เสียภาษี ทำให้เราเคลิ้มๆ ตาโตกับผลตอบแทนก้อนโต
            จริงๆ แล้ว ข้อดี การซื้อประกัน หรือการออมเงินผ่านบัตรเครดิต เป็นการสร้างวินัยการเงินรูปแบบหนึ่ง แต่ก็ต้องพิจารณาว่าคุณมีกำลังพอที่จะส่งเงินเพื่อการออมได้ระยะยาวหรือไม่ ถ้าได้ก็ถือว่าเป็นผลตอบแทนที่ดี แต่ต้องระวังถ้าจ่ายชำระผ่านบัตรเครดิตไม่ตรงตามกำหนดก็จะต้องเสียดอกเบี้ย 28 % เมื่อคำนวนผลตอบแทนแล้วติดลบแน่ๆ  และถ้ายกเลิกไม่สามารถผ่อนได้ตามระยะเวลาที่กำหนดคือ 15 ปี ขอเงินคืนก่อน หรือที่เรียกกันว่าเวนคืนกรมธรรม์ คุณจะขาดทุนแน่ๆ หรือบางกรมธรรม์บริษัทจะไม่ยอมคืนค่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปเลย ถือว่าเงินที่จ่ายไปสูญเปล่า
            ที่สำคัญคุณจะรู้หรือไม่ว่า "โครงการออมพิเศษ" นั้นเป็นการซื้อประกันผ่านบัตรเครดิต แต่เปลี่ยนคำพูด เป็น"การออมเงินผ่านบัตรเครดิต" เพื่อให้ฟังแล้วรู้สึกดูดีกว่าการซื้อประกัน
            ดังนั้นการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน คำๆนี่้ใช้ได้ทุกสถานการณ์



         ขอบคุณข้อมูลดีๆจากคอลัมน์แม่ไม้การเงิน นสพ.โพสต์ทูเดย์ โดยชัตน์วรี